โซลชายอมรับว่า การแซงแมนเชสเตอร์ซิตี้ นั้นคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าลุยต่อให้ถึงที่สุดแน่นอน และความเป็นไปได้ที่อาจจะตามทัน โดยไม่จำเป็นต้องลุ้นให้ซิตี้แพ้สามนัดรวด
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังไม่ถอดใจในเรื่องที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอาจจะกระชากแชมป์พรีเมียร์ลีกช่วงท้ายฤดูกาลนี้ได้ แต่ก็ชี้ว่าโอกาสที่จะแซงคู่อริอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ได้สำเร็จนั้นมันเป็นไปได้ยากมาก
แมนเชสเตอร์ซิตี้นำห่างถึง11แต้ม แต่การพลาดแพ้คาบ้านต่อลีดส์ ยูไนเต็ดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ยูไนเต็ดกำลังจะมีโอกาสลดช่องว่างเหลือ8แต้มได้ในเกมเจอกับเบิร์นลีย์ คืนวันอาทิตย์ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ในยามที่ซิตี้ซึ่งแข่งมากกว่าหนึ่งนัด และไม่มีเกมลีกเตะในวีคนี้ ต้องไปลงสนามเกมรอบรองชนะเลิศเอฟเอคัพกับเชลซี
หากแมนยูไนเต็ดทำสำเร็จกับเกมเบิร์นลีย์ ช่องว่างจะเหลือ “8แต้ม” ทันที กับเกมที่เหลืออยู่อีก “6นัด”
นี่กำลังจะกลายเป็นสถานการณ์ที่คล้ายกันเป๊ะกับปี2012 ที่แมนเชสเตอร์ซิตี้มีคะแนนตามหลังลูกทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อยู่ “8แต้ม” ขณะที่เหลือ “6นัดสุดท้าย” ระยะห่างของคะแนนเท่ากันพอดี ในขณะที่บริบทในแง่ของคุณภาพทีม แมนยูไนเต็ดกับแมนซิตี้ก็มีทีมที่คู่คี่สูสีกันด้วย
แค่กลับตำแหน่งกันเท่านั้นเอง ซึ่งปีนั้นสุดท้ายแล้วแฟนผีก็คงจะจำและเจ็บกันแบบไม่ลืมแน่นอนเมื่อโดนเบียดแซงเข้าป้าย และเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกแรกของซิตี้ในยุคของ ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน
ขณะนี้ทีมของโซลชานั้นไม่แพ้ใครมา11นัดแล้วในลีก และ4เกมล่าสุดชนะรวด แต่ว่าทางฝั่งของซิตี้นั้นต้องการอีกเพียงแค่ “11แต้ม” จาก6นัดที่เหลือ พวกเขาก็จะคว้าแชมป์ลีกทันที
(อย่างที่เขียนในบทความคาดการณ์อันดับในลีกปีนี้ว่า ซิตี้น่าจะได้แชมป์ที่สนามเซนต์เจมส์ปาร์คทันที หากว่า4นัดข้างหน้าพวกเขาทำได้11แต้ม จะคว้าแชมป์ลีกทันทีโดยไม่ต้องสนใจแมนยูไนเต็ด)
และผู้จัดการทีมของเราก็ได้ชี้ถึงเรื่องการพลิกคว้าแชมป์ในช่วงท้ายที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ ดังนี้
“แน่นอน พวกเราไม่มีทางยอมแพ้อยู่แล้ว แมนยูไนเต็ดจะไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด ทีมๆนี้ สโมสรแห่งนี้พ่ายแพ้มาก็มาก แต่ก็ต่อสู้จนคัมแบ็คกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่อีกมากมายเช่นกัน นั่นคือสิ่งที่อยู่ในDNAของพวกเรา การยอมแพ้นั่นแหละที่ไม่ได้อยู่ในDNAของเราที่ว่านี้”
“ถามว่าการพลิกล็อคมันจะเกิดขึ้นมาได้จริงๆมั้ย? .. ไม่ ผมว่าไม่ เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่เป็นทีมที่มีฟอร์มการเล่นแน่นอนมากๆอย่างเช่นซิตี้ คงเป็นไปได้ยากนะที่จะหวังให้เขาแพ้3เกมจาก6นัดสุดท้าย ซึ่งถ้าตราบใดที่เราตั้งหน้าตั้งตาทำผลงานของทีมตัวเองให้ดีที่สุด พวกเราก็อยากที่จะจบซีซั่นนี้อย่างแข็งแกร่งที่สุด และโฟกัสกับเกมตรงหน้า”
แม้ยูไนเต็ดไม่น่าจะทำคะแนนไล่แชมป์ได้ทัน แต่โควตาการได้เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้าก็ค่อนข้างที่จะปลอดภัยมากๆแล้ว ซึ่งหากยูไนเต็ดจบในอันดับท็อปโฟร์ได้ มันจะเป็นครั้งแรกของทีมเราเลยที่สามารถทำผลงานได้ลงเล่นในUCLอย่างต่อเนื่อง2ปีติดได้เป็นครั้งแรกจริงๆนับตั้งแต่การวางมือของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
โซลชาเชื่อว่าสัญญาณของการพัฒนาในครั้งนี้ จะทำให้เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราอยู่ที่การคว้าแชมป์ลีกให้ได้
“คุณต้องค่อยๆพัฒนาไปทีละขั้นๆ นั่นแหละคือความเป็นจริง ถ้าหากเราพยายามเก็บชัยชนะต่อไปเรื่อยๆเราก็จะรักษาอันดับสองเอาไว้ได้ และถ้าแมนซิตี้ชนะในเกมของพวกเขาได้ทั้งหมด ขณะที่เราเองก็ชนะในเกมของเราเองได้ทั้งหมดเช่นกัน นั่นแหละแบบนั้นคือการจบฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่ง”
“ปีที่แล้วอันดับสาม ปีนี้อันดับสอง หากเราทำสำเร็จ มันแปลว่าเราใกล้เคียงกับโทรฟี่มากขึ้น และมันคือการพัฒนาขึ้นนั่นเอง แต่มันยังไม่ใช่การปิดฉากที่แท้จริง เพราะแน่นอนว่าจะปิดฉากจริงๆมันคือการคว้าแชมป์ลีกต่างหาก แต่พวกเราไม่ได้อยู่ในยุคของเซอร์อเล็กซ์แล้วในตอนนี้”
“พวกเรามีช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นนับตั้งแต่เขาวางมือจากทีมนี้ไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มันเกิดขึ้นได้ เพราะไม่มีใครที่จะดีกว่าเขาอีกแล้ว เขาเคยเป็นบอสซึ่งอยู่ที่นี่มานานหลายปีมากๆ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่โคตรยากแน่นอนในการเข้ามาทดแทนป๋าได้”
“มันกำลังก้าวหน้าไปทีละขั้นๆ และเมื่อใดก็ตามที่พวกเราทำได้ดีมากพอ นั่นจะเป็นตอนที่เราได้คว้าแชมป์ลีกและถ้วยต่างๆมาได้สำเร็จนั่นเอง ซึ่งแน่นอนมันคือความทะเยอทะยานของพวกเราอยู่แล้ว เรื่องเหล่านั้นมันเป็นเป้าหมายของเราเสมอ ทุกๆคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าผมพูดถึงอะไร มันคือการค่อยๆไปทีละขั้นนั่นล่ะ”
ทั้งหมดนี้คือมุมมองและความคิดของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา กับสถานการณ์ในลีกที่หากว่าแมนยูไนเต็ดเก็บชัยชนะในนัดเจอเบิร์นลีย์ได้สำเร็จ ระยะห่างของยูไนเต็ดจะเหลือแค่8แต้ม กับแมตช์ที่เหลืออีก6เกมสุดท้ายเท่ากันทั้งคู่
แน่นอนเราคงไม่ต้องพะวงเรื่องที่ว่าอันดับสามอาจจะตามมาแซงเราได้แล้ว เพราะพูดกันตามตรง อันดับ3-4 หลุดวงโคจรในการจะมาแย่งอันดับ2กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปแล้วเรียบร้อย
คำถามสำคัญของบทความนี้ก็คือ ห่าง8แต้ม เหลือ6นัด แมนยูมีโอกาสแซงแมนซิตี้เป็นแชมป์หรือไม่?
ในทางทฤษฎี แน่นอนว่าเป็นไปได้อยู่แล้ว เพราะเหลือเกมถึง6นัด ในขณะที่คะแนนนี้สามารถทำแต้มทันได้ด้วยการชนะ3นัด
แต่ในทางปฏิบัติ เราจะคาดหวังให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ทำแต้มหล่นเยอะขนาดนั้นได้จริงๆเหรอ?
ต้องตอบว่า จริงๆแล้วมันก็มีทั้งเป็นไปได้ และ เป็นไปไม่ได้เหมือนกัน
คู่แข่งที่ซิตี้จะต้องเจอตามลำดับคือ
Aston Villa (เยือน) / Crystal Palace (เยือน) / Chelsea (เหย้า) / Newcastle United (เยือน) / Brighton and Hove Albion (เยือน) / Everton (เหย้า)
เราลองมาคิดกันง่ายๆว่า จริงๆแล้วการสะดุดของซิตี้นั้น ไม่จำเป็นต้องลุ้นให้พวกเขาแพ้3นัดรวด ก็มีโอกาสพลิกได้
เพราะเพียงแค่สะดุดเสมอแค่สัก 1นัด แล้วก็พลาดแพ้แบบเกมเจอลีดส์อีกสัก1นัดติดๆกัน เกมก็อาจจะพลิกได้ทันที เพราะสมมติว่า สามนัดถัดไป ซิตี้พลาดเสมอ1 แพ้1 ชนะ1 พวกเขาจะได้เพิ่มอีกแค่4แต้ม จะกลายเป็น 78คะแนน ส่วนแมนยูไนเต็ดหากเดินเครื่องสุดชีวิตเก็บสามนัดที่เจอลีดส์ ลิเวอร์พูล วิลล่าได้หมดอย่างฮึกเหิม แมนยูจะมีแต้ม : 66+9 = 75คะแนน
ส่วนแมตช์ของแมนยูไนเต็ดเอง ถ้าปีศาจแดงไม่พลาดในนัดที่เหลือ ก็ยังมีโอกาสทำแต้มทาบได้ ซึ่งเหลือเพียงแค่แดงเดือดเท่านั้นที่ต้องลุ้นมากหน่อย จากทั้งหมด6นัดที่ไม่ถึงกับเหลือบ่ากว่าแรงเลย ดังนี้
Leeds United (เยือน) / Liverpool (เหย้า) / Aston Villa (เยือน) / Leicester City (เหย้า) / Fulham (เหย้า) / Wolves (เยือน)
คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
ติดตามได้ที่ >>> บ้านผลบอล